maipatana.me

สถาปัตยกรรมอย่างการเมือง

สถาปัตยกรรมMFGA

The Khaleesi Tower Balcony

Aesthetics as Politics ใน AD ฉบับเดือน Nov/Dec 2016

สถาปัตยกรรมอย่างการเมือง หรือ Architecture as Politics นั้นผมแปลงมาจาก Aesthetics as Politics ที่เป็นชื่อตอนหนึ่งใน Architectural Design ฉบับ Nov/Dec 2016 โดยพูดถึงงาน The Khaleesi Tower หรือ West 57th Street, NYC ที่ออกแบบโดย Mark Foster Gage Architects โดยประเด็นหลักๆของบทความนี้ใน AD คือเรื่องการที่สถาปัตยกรรมจะกลับมามีพลัง เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เป็นเรื่องที่คนทั่วๆไปพูดถึงกัน ถกเถียงกัน เหมือนดั่งงานศิลปะอื่นๆ หรือดั่งที่สถาปัตยกรรมเคยเป็นเมื่อสมัยก่อน

สถาปนิก Mark Foster Gage ให้ข้อสังเกตว่างานสถาปัตยกรรมในปัจจุบัน ถูกบดบังด้วยสิ่งต่างๆเช่น โปรแกรมของโครงการ บริบท และความยั่งยืนหรือการประหยัดพลังงาน ทำให้งานสถาปัตยกรรมไม่มีพื้นที่พอที่จะแสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมา พลังที่จะขับเคลื่อนสังคม ให้แรงบันดาลใจแก่สังคม

ถ้าเราดูศิลประเภทอื่นๆในช่วงหลังมานี้ เช่นภาพถ่ายหรือดนตรี มีผลงานหลายๆชิ้นที่สามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ได้ เช่นภาพเด็กผู้หญิงเปลือยผ้าชาวเวียดนามที่วิ่งร้องไห้หนีระเบิดนาปาล์มที่สามารถโน้มน้าวให้เกิดการต่อต้านสงครามเวียดนามในสหรัฐอเมริกา

The Khaleesi Tower Entrance

Aesthetics as Politics ใน AD ฉบับเดือน Nov/Dec 2016

แม้ว่าสถาปัตยกรรมก็เป็นศิลปะที่มีศักยภาพที่จะมีพลังต่อผู้คนเช่นกัน แต่อาจจะถูกลืมเลือนไปแล้ว เรื่องราวของสถาปัตยกรรมที่มีพลังดูจะกลายเป็นเรื่องเล่า เป็นตำนานที่เกิดขึ้นในอดีตไปแล้ว

"สถาปนิกในปัจจุบันให้ความสำคัญกับปัญหาพื้นๆ ปัญหาในวงแคบ เช่น ปัญหาของบริบท (เหมือนว่ามีภูเขาอยู่ไกลๆ) โปรแกรม (เอา Starbucks ใส่ไว้ในห้องน้ำ) การใช้สัตว์เป็น metaphor เพื่อการตลาดที่ดี (มันคือนก) หรือการใช้พลังงานให้น้อยลง (แม่ๆดูนั่นสิ - LEED copper)"

Mark Foster Gage Architects เชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงกำลังจะมา สถาปนิกเริ่มเบื่อกับสถาปัตยกรรมแบบเดิมๆที่มักจะทำให้เรียบๆ ง่ายๆ เล็กๆ น้อยๆ (หรือที่เรียกรวมๆว่า modern architecture) MFGA ยังบอกอีกว่า ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลอะไรมาก แต่อย่างน้อยก็ขอเป็นหนึ่งเสียงที่บอกว่าสถาปัตยกรรมนั้นเป็นได้มากกว่าแค่ฉากหลังของสิ่งอื่นๆ เป็นได้มากกว่าที่แขวนรูปหรือโล่รางวัลใดๆ

MFGA หวังว่า The Khaleesi Tower จะสามารถทำให้ผู้คนได้เกิดการพูดคุย ถกเถียง ชอบ รัก ไม่ชอบ เกลียด ที่เป็นสิ่งที่ปกติจะจำกัดอยู่ในเรื่องของการเมือง จึงจะถือว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จ